ประเทศของเรานั้นมีความเหลื่อมล้ำทางฐานะค่อนข้างมาก สภาพการเงินก็เป็นไปตามนั้นด้วย
เหล่าคุณแม่นั้นจะเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่ถาโถมเข้ามาได้มากน้อยแค่ไหนกันนะ ?
ผลสำรวจคุณภาพชีวิตและความสุขคนวัยทำงานในองค์กรประเทศไทย ระดับประเทศประจำปี 2565 โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ได้สำรวจถึงค่าความสุข มิติสุขภาพการเงินดี (Happy Money) ของเหล่าคุณแม่แต่ละช่วงวัยในประเทศไทย ผลปรากฎออกมาดังนี้ Generation Baby boomer นั้น มีค่าเฉลี่ยที่สูงสุดคือ ร้อยละ 67.2 ที่พึงพอใจกับระดับการเงินของตนเอง รองลงมาคือ Generation X , Generaion Z และ Generation Y โดยมีค่า ร้อยละ 52.8 , ร้อยละ 50 และ ร้อยละ 47.6 ตามลำดับ
ค่าเฉลี่ยของมิติสุขภาพการเงินดีนั้น ค่อนข้างต่ำถ้าเทียบกับมิติอื่น เช่น มิติครอบครัวดี ในบทความตอนที่แล้วที่เพดานค่าเฉลี่ยมากที่สุดพุ่งไปถึงเกือบ ร้อยละ 80 และ เพดานต่ำที่สุดนั้นก็ยังมากถึง ร้อยละ 60
เป็นหลักฐานที่ชี้ชัดเจนเลยว่า ชาวไทยจำนวนไม่น้อยนั้นมักจะมีความสุขด้านการเงินน้อยกว่าด้านอื่นๆ
Generation Y มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดและยังต่ำกว่ามาตรฐานอีกด้วย คงเป็นเพราะเป็นวัยที่กำลังจะสร้างตัวให้ชีวิตเป็นชิ้นเป็นอันและสร้างครอบครัวให้สมบูรณ์มั่นคง เงินจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะทุกสิ่งที่เป็นปัจเจกสำคัญย่อมถูกขับเคลื่อนด้วยเงิน ส่วน เหล่า Baby Boomer ที่ฐานะอยู่คงตัวแล้ว อาจจะมีความกังวลน้อยกว่ารุ่นอื่นๆ
ในยุคนี้แค่การออมเงินอาจจะไม่ทำให้การเงินมั่นคงได้ มีวิธีการแนะนำหาเงินเพื่อบตอบสนองความเป็นไปในยุคนี้มากมาย เช่นการลงทุน การเล่นหุ้น การเพิ่มทักษะเพื่อสร้างเงินจำนวนมากกว่าเดิม เงินดิจิตัล อย่าง บิตคอยน์ (Bitcoin)
ถ้าเรารู้จักการต่อยอดที่ถูกต้อง เราจะสามารถทำให้เงินในกระเป๋าของเรานั้นมากขึ้นได้ไม่มากก็น้อย ขอให้คุณแม่ทุกๆคนนั้นมีความสุขกับการหาเงินมาดูแลลูกๆที่คุณรักกันนะครับ