การรณรงค์ส่งเสริม “ความเสมอภาคทางเพศ” ให้มีความเสมอภาคของคุณภาพชีวิตและความสุข ส่งผลให้พื้นที่ของ “เพศหลากหลาย” กว้างขวางครอบคลุมพื้นที่ทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากยิ่งขึ้น อาทิ การประกาศเป็นวาระแห่งชาติว่าด้วย “สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” มหาวิทยาลัยหลายแห่งประกาศให้สิทธินักศึกษาสามารถแต่งกายตามอัตลักษณ์ทางเพศหรือเพศวิถีได้
ใน 17 เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (the Sustainable Development Goals: SDG) เป้าหมายที่ 3 (Good Health and Well-being) และ 4 (Quality Education) มุ่งเน้นสร้างเสริมให้คนทุกเพศวัยในประเทศมีสุขภาพดี อยู่ดี กินดี มีความสุข เคารพสิทธิมนุษยชน ความเสมอภาคระหว่างเพศ รวมถึง ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความสงบสุขและไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่งได้รับการขานตอบจากภาคเอกชนหลากหลายสาขาร่วมกันลงนามในข้อตกลง SDG กับองค์การสหประชาชาติ สนับสนุนและส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพอย่างเท่าเทียม การมีส่วนร่วม การให้เกียรติ และการไม่เลือกปฏิบัติ สำหรับกลุ่ม “เพศหลากหลาย”
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ทำการสำรวจรายปี คุณภาพชีวิตและความสุขคนทำงาน ด้วยเครื่องมือ HAPPINOMETER แบบสำรวจตนเองทั้งระบบ paper-based และ online-based ผลสำรวจ “องค์กรแห่งความสุข” ปี 2563 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 25,955 ราย ซึ่งกำลังทำงานอยู่ใน 436 องค์กรทั่วประเทศ มีผู้ระบุว่าเป็น “เพศหลากหลาย” จำนวน 212 คน คิดเป็นสัดส่วน 0.8% เป็นคน Gen Y (อายุ 18–33 ปี) มากที่สุด จำนวน 145 คน ขณะที่ การสำรวจ “มหาวิทยาลัยแห่งความสุข” ปี 2562 ด้วย HAPPINOMETER ชุดเดียวกัน จากบุคลากรที่กำลังปฏิบัติงาน จำนวน 30,240 ราย ใน 25 มหาวิทยาลัย มีผู้ระบุว่าเป็นเพศหลากหลาย จำนวน 210 คน คิดเป็นสัดส่วน ประมาณ 0.7% เป็นคนทำงาน Gen Y (อายุ 18–33 ปี) มากที่สุด จำนวน 102 คน
ร้อยละเพศหลากหลายจำแนกตามเจเนอเรชันและประเภทองค์กรแห่งความสุข
Generation | Happy Workplace 2563 | Happy University 2562 | ||
จำนวน | ร้อยละ | จำนวน | ร้อยละ | |
Gen Y (18-33) | 145 | 68.4 | 102 | 48.6 |
Gen X (24-53) | 53 | 25.0 | 97 | 46.2 |
Gen BB (54+) | 1 | 0.5 | 6 | 2.9 |
ไม่ระบุ | 13 | 6.1 | 5 | 2.4 |
รวม | 212 | 100 | 210 | 100 |
สิ่งที่น่าจับตาคือจำนวน “เพศหลากหลาย” เริ่มเห็นชัดขึ้นในแต่ละสังคม มีบริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินที่ให้บริการกับกลุ่มเพศหลากหลาย(LGBT Capital) รายงานข้อมูลปี 2563 พบ จำนวนที่เปิดเผยของกลุ่มเพศหลากหลาย ประมาณ 483 ล้านคน จากประชากรโลก 7.4 พันล้านคน ในจำนวนนี้ 288 ล้านคนอยู่ในภูมิภาคเอเชีย โดยเป็นคนในประเทศจีนประมาณ 85 ล้านคน อินเดีย 80 ล้านคน ญี่ปุ่น 8 ล้านคนและ ไทย 4 ล้านคน (หรือประมาณ 0.83%)
ที่น่าสังเกต การนำเสนอสถานการณ์ การเปลี่ยนผ่าน วิวัฒนาการ “เพศหลากหลาย” บนความเสมอภาคทางเพศ ที่นอกจากมุ่งเน้นประเด็น คุณภาพชีวิตและความสุขที่ยั่งยืนตามแนวคิดของ Happy SDG ที่ “เพศหลากหลาย” เป็นส่วนหนึ่งของคนทุกเพศทุกวัยในพื้นที่สังคมและวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกัน อย่างไรก็ตาม การรับรู้ วิธีคิด และกฎหมาย ที่ส่งต่อไปยัง วิถีปฏิบัติต่อกลุ่ม “เพศหลากหลาย” ยังพบว่าเป็น “ภาพจำ” “ประสบการณ์” และ “ชุดคิด” ที่สอดแทรกไปกับวิถีการเปลี่ยนผ่านบนพื้นที่นั้นๆ ร่วมกันอย่างท้าทาย
ความเข้าใจ การสัมผัสจากประสบการณ์เดิมหรือจากบริบทที่ล้อมรอบของคนในสังคมและวัฒนธรรม โดยทั่วไป มักประทับ “ภาพจำ” ว่า “เพศ” ในสังคมไทย มีเพียง “เพศชาย” และ “เพศหญิง” การรับรู้และเรียนรู้เช่นนี้ เสมือนด้อยค่า “ความเสมอภาคทางเพศ” ส่งผลถึงวิธีคิดต่อ “เพศหลากหลาย” ให้ยากที่จะมีที่ยืน
แม้ว่า กฎหมายในปัจจุบันที่รัฐบัญญัติขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรทำให้ ที่ยืนของ “เพศหลากหลาย” มีแนวโน้มได้รับการตอบรับที่ดี แต่วิถีปฏิบัติ ที่ยังคงบรรทัดฐานกำหนดให้คนในสังคมประพฤติปฏิบัติอย่างเข้มงวด มีการควบคุมที่รุนแรงเพื่อป้องกันการฝ่าฝืน หากคนในสังคมปฏิบัติตามจะถูกนับว่า เป็นสิ่งดีงาม หากฝ่าฝืนหรือละเมิดจะนับเป็น “คนผิด” “คนไม่ดี”
ที่ยืนของ “เพศหลากหลาย” นี้ จึงเป็นพื้นที่ที่ต้องเล่นกับ การรับรู้ วิธีคิด และ ความรู้สึกของจารีต ศีลธรรม ประเพณี ที่มีรากเหง้ามาจากมโนสำนึกว่า
ความละเอียดอ่อนซับซ้อนและลึกซึ้งของบรรทัดฐานทางสังคมดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อการดำเนินวิถีปฏิบัติต่อ “เพศหลากหลาย” กับ “ภาพจำ” ที่เปลี่ยนผ่านหรือไม่? อย่างไร? คำตอบเหล่านี้ อยู่ที่ไหน? อยู่กับใคร? เป็นเรื่องท้าทายที่ต้องไปให้ถึง
อ้างอิง